นายตูตู้ |
|
เที่ยงคืนกว่า
ที่พยาบาลเข็นคุณแม่เขา
เข้าไปในห้องคลอด
รอด้วยความกระวนกระวาย
ห่วงว่าแม่จะเป็นอะไรไหม
ลูกจะปกติหรือเปล่า
สักพักใหญ่
พยาบาลเข็นรถเข็นใส่อะไรออกมาสักอย่างผ่านหน้าไป
มองแวบหนึ่งแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
ครั้งแรกนึกว่าเป็นกองผ้าขี้ริ้ว
มารู้ภายหลังว่าเขาเข็นลูกเราออกมา
สักพักจึงเดินไปดูที่ห้องเด็กอ่อน |
|
|
|
ที่นั่น
จึงได้เห็นเขาเป็นครั้งแรก
ความรู้สึกตอนนั้นบอกไม่ถูก
มันมีอะไรหลาย
ๆ
อย่างปนเปกันไปหมด
จ้องมองเขาผ่านกระจกใส
นานแสนนานในความรู้สึก
นึกขึ้นได้ว่า
แล้วแม่เขาละเป็นอย่างไรบ้าง
จึงรีบกลับไปดูที่ห้องพักหลังคลอด
เขายังสลึมสลือจากยา
แต่ยังมีแรงพอจะถามว่า
ลูกเป็นอย่างไรบ้าง
ตอนนั้นจำได้ว่า
กุมมือเขาไว้และบอกเขาว่าลูกแข็งแรงดี
มีครบทุกส่วน
และเป็นผู้ชาย |
|
ถึงวันนี้นายตูตู้โตมากแล้ว
ออกจากบ้านไม่อยากนุ่งกางเกงขาสั้น
ชอบจะนุ่งกางเกงขายาวมากกว่า
สงสัยจะเป็นหนุ่มแล้ว
แต่อยู่ในบ้านยังวิ่งแก้ผ้าอาบน้ำอยู่เลย
เรียนอยู่ ป.4
มีความรับผิดชอบดี
การบ้านไม่มีตกค้าง
ครูสั่งงานอะไรมาก็จะทำจนเรียบร้อย
ใกล้สอบทีไรก็จะต้องถูกแม่เขาเข็นใหญ่เสียทีหนึ่ง
คะแนนออกมาก็เป็นที่ชื่นใจของพ่อแม่
สุภาพกับผู้ใหญ่
|
|
แม่เขาชอบหนักหนาว่าเหมือนเขา
สิ่งที่ดีของเขาคือ
รักน้องสาวเขามาก
คอยสอนน้อง
ให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้
เช่น
บอกน้องว่า
ต้องกินผักนะ
ผักมีประโยชน์
และน้องก็เชื่อฟังพี่ดีมาก
พี่บอกอะไรก็ทำตาม
แต่ตัวพี่ไม่ค่อยได้เรื่อง
เป็นต้นว่า บอกให้น้องกินผัก
แต่ตัวพี่เองเขี่ยผักทิ้งหมด |
|
|
|
สำหรับอนาคตของเขา
อยากให้เขาได้เรียนมาก
ๆ
จะได้นำความรู้
มาใช้ให้เป็นประโยชน์
ต่อตัวเขาเองและสังคม
ส่วนจะเป็นอะไรคงต้องแล้วแต่เขา
ชั้นต้นต้องเรียนให้มาก
ๆ ไว้ก่อน
มีข้อมูลมาก
ๆ
เวลาตัดสินใจทำอะไรในอนาคต
จะได้ไม่ผิดพลาด
แต่แม่เขาอยากให้เขาเรียนหมอ
เพราะเวลาแม่ไม่สบายลูกจะได้มารักษาให้
ก็ดีเหมือนกัน
แต่ถึงที่สุดก็คงต้องแล้วแต่เขา |
|
พ่อตงเฉื่อย |